ตอนที่ 7

     " พีมม "

     " ว่ายังไง "


     เค้าทำหน้าเหมือนผู้ชนะยืนรอให้ผมขอความช่วยเหลือจากเค้า ด้วยการให้้อุ้มไปส่งที่เตียงแต่ฝันไปเถอะ 


     " ช่วยยิบรองเท้าบูทยางให้หน่อย เฮ้ยย!! "


     หวืดด!

     ผมร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อพีมเดินมายกตัวผมลอยขึ้น แต่ก็ยังไม่ทันได้แหกปากตะโกนออก เค้าเดินไปที่เตียงแค่สามก้าวแล้วตั้งผมลงบนที่นอน


     " แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง ไม่ต้องเอารองเท้าให้วุ่นวาย "


     ผมไม่พูดได้แต่อึกอักก่อนจะผลักหมอนิ่มให้ถอยไปไกลๆแต่จากเหตุการณ์เมื่อกี้...มันทำให้ผมตระหนักได้ว่า ผมคิดน้อยไปเรื่องที่ยอมให้พีมมาอยู่ด้วย วันแรกผมมัวแต่จดจ่ออยู่กับเรื่องที่ว่่าจะเอาเงินจากไหนมาจ่ายค่าเทอม 


     " เสร็จแล้ว...งั้นเดี๋ยวเราไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน "

     " อืมม "


     เอายังไงดีล่ะทีนี้ถ้าให้เค้านอนพื้นมันก็จะดูเหมือนเรารังเกียจ แต่ถ้าให้เขานอนข้างด้วย เราจะนอนหลับมั้ยวะ หรือว่า...เราจะแกล้งหลับไปก่อนดี หลับแล้วก็ไม่รู้อะไร ไอ้ฝนบ้านี่ก็ไม่หยุดตกสักทีจะตกอะไรกันนักกันหนาเนี่ย

     เปรี้ยง!! ซ่า!!

     ตกหนักขึ้นไปอีก...

     แอ๊ดดดด

     พอได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดผมก็รีบหลับตาปี๋ แสร้งทำเป็นหลับสนิทไม่ได้ยินอะไรไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น ให้เขาจัดการที่นอนของตัวเองไม่ว่าเค้าจะนอนที่ไหนยังไงมันก็เรื่องของเค้า

     ยี่สิบนาทีผ่านไป....

     ผมคิดว่างั้นนะ คือผมแกล้งหลับพยายามไม่พลิกตัวบ่อยเพราะมันจะดูผิดสังเกต แต่มันก็ห้ามตัวเองไม่ได้ แกล้งหลับนี้มันไม่ง่ายเลย เขาจะไปนอนตรงไหนนะ เดี๋ยวว่าแต่ที่นอนเลย ที่นั่งยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ ปกติเราก็นั่งพื้นตลอด

     ฟุบ

     ผมพลิกตัวไปดูว่าเค้าทำอะไรอยู่ เชี้ยย...นี้มันนั่งขี้ไม่ปิดประตูเหรอเนี่ย โอ้ยย..ไม่ต้องเพิ่มกลิ่นขี้ในห้องได้มั้ย ไม่ไหวแล้วว!!!


     " พีมม... "

     ผมตัดสินใจก็ได้ตัวลุกขึ้นจากที่นอนเพื่อจะบอกว่าให้ปิดประตูห้องน้ำซะด้วยเพราะนี่มันทุเรศผิดมนุษย์มนาเกินไปแต่ยังไม่ทันจะเรียกชื่อจบ ผมต้องชะงัก เมื่อได้เห็นอย่างถนัดกับตา ว่าเค้าไม่ได้นั่งขี้แต่อย่างใดเพราะเค้าไม่ได้ถอดกางเกงออกมา เจ้าตัวแค่นั่งบนชักโครกแล้วอ่านตำราเรียนของผมก็แค่นั้น


     " อ้าว...นึกว่าหลับไปแล้ว "

     " ทำไมไปนั่งอ่านหนังสือตรงนั้นละ "

     " ก็...ไม่มีที่จะให้นั่งนิ ห้องก็ไม่มีเก้าอี้ บนโต๊ะก็มีของวางอยู่ เราก็คิดจะนั่งบนชักโครกไปก่อนจนกว่าฝนจะหยุดตก เราค่อยเช็ดพื้นให้เเห้ง "

     " แต่หนังสือของคุณไม่เห็นสนุกเลยยิ่งอ่านยิ่งง่วงกฎหมายของมนุษย์ช่างวุ่นวายจริง "


     ผมมองภาพที่เขานั่งอยู่บนชักโครกยังไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อดีรู้แค่ว่าการที่ตัวเองแกล้งนอนหลับเพื่อชิงเอาตัวรอดมันทุเรศเกินไป ถึงยังงั้นเค้าก็ไม่เลือกที่จะไปนั่งบนเตียงแต่เลือกที่จะไปนั่งในห้องน้ำแทน


     " คุณก็นอนเถอะ หรือจะให้เราปิดไฟให้ "


     ปุบๆ

     ผมตบตรงเตียง ซึ่งเอาจริงๆพื้นที่ก็ไม่ค่อยมีเหลือหรอกแต่ก็ทนดูนดูเค้านั่งอยู่ในห้องน้ำนั้นในขนาดที่ผมอยู่บนเตียงสบายใจเฉิบไม่ได้หรอก


     " ออกมานั่งตรงนี้ "

     " แต่คุณไม่อนุญาตให้เรา... "


     ก่อนหน้าเราคุยกันว่าห้ามให้เค้าเเตะต้องเตียงของผมเด็ดขาด


     " แบบนี้ไม่เรียกอนุญาตรึไง หรือจะนั่งตรงนั้นต่อจนกว่าฝนจะหยุด? "

     " ไม่ๆ ไปเดี๋ยวนี้ล่ะ " 


     พีมรีบตอบรับ เค้ารีบยัดเท้าเข้าไปในบูตยางของผม เมื่อเค้ามานั่งอยู่บนเตียง และผมก็อยู่บนเตียงความกระอักกระอ่วนก็ได้เริ่มขึ้น


     " เอ่อ... " 


     เค้าดูเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เค้าก็หาวจนน้ำหูน้ำตาไหลสะก่อน


     " งั้นนอนแล้วนะ พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้า "

     " งั้นเราคงหวังได้แค่ให้ฝนหยุดตกให้ไว้ที่สุด "

     " อืมมม "


     ผมส่งเสียงรักแล้วก็ล้มตัวนอนลงตั้งใจจะไม่รับรู้ไม่สนอะไร แค่นี้ก็ถือว่ามากพอแล้วแต่พอผ่านไปได้ห้านาทีผมก็ยังนอนไม่หลับ แต่หันไปเห็นพีมนั่งอยู่ที่ปลายเตียงด้วยสภาพง่วงเหงาหาวนอน เค้าเองก็ยืนแจกใบปลิวมาทั้งวัน คงเพลียเหมือนกับผมนั่นแหละ นั่งหาวแล้วหาวอีก ช่างน่ารำคาญซะจริง ในที่สุดผมก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับถอนหายใจแรงๆอีกหนึ่งเฮือก


     " นี่ ถ้าง่วงก็มานอน ไม่ต้องนั่งอยู่ "

     " ได้เหรอ "

     " ได้สิ แต่บอกไว้ก่อนนะ ว่าถ้านายทำอะไรแผลงๆแล้วก็ นายโดนอัดเละแน่ "


     ผมขู่แม้ว่าถ้ามองตามความจริงแล้วคนที่อัดผมน่าจะเป็น ไอ้หมอนั่น แต่ยังไงก็ต้องขู่เผื่อไว้ก่อน เหมือนสุภาษิตที่ว่า เขียนเสือให้วัวกลัวยังไงล่ะ


     " เราได้ให้คำสาบานไปแล้ว ขอให้คุณจงเชื่อเราเถอะว่าเราจะไม่มีทางจะบัตรบัตรเป็นอันขาด ปีศาจเป็นผู้มีเกียรตินะ รู้ไว้ "

     " ขอให้มันจริงก็แล้วกัน " 

     " แน่นอนอยู่แล้ว "

     " จะบอกให้นะ ที่ให้มานอนบนเตียงด้วยเนี่ยเพราะว่าพื้นมันเปียกหรอกนะถ้าวันไหนที่ฝนไม่ตกนายก็ต้องกลับไปนอนพื้นเหมือนเดิม เข้าใจมั้ย "

     " เข้าใจแล้ว " 

     " เตือนอีกรอบ อย่าทำอะไรแผลงๆเด็ดขาด "

     " รู้แล้วหนาา เราไม่ได้เป็นคนเข้าใจอะไรยากสะหน่อย "

     " รู้แล้วว่าไม่ได้เป็นคนเข้าใจยาก ฉันแค่เตือนไว้เฉยๆ "

     " นอนไปอย่าพูดเยอะ "

     " นายนั้นเเหละนอนไป "

     " คุณอะนอน "

     " โอ้ยย~~ ไอ้พีมมมมมม!!! " 

     " ทำไมต้องเรียกไอ้แบบนั้นด้วย อยากปิดปากหรือไง "

     " ปิดปาก จะปิดยังไง "

     " ก็ปากกับปากไงที่นี่เค้าทำกันแบบนี้นิ ไม่ใช่เหรอ "

     " ไม่ใช่เว้ยยยย "

     " ถ้าคุณยังพูดไม่ยอมนอนอยู่อีกละก็นะ เราจะปิดด...."


     ผัวะ!!!


     " คร่อกกก "


     อะไร โป้งเดียวสลบเลยเหรอ

     แหมถ้ารู้ว่าต่อยอะไรอีกฝ่ายจะเงียบไปแบบนี้นะ ผมคงต่อยไปตั้งนานแล้วจะได้หุบปากไปสักที คืนนี้จะได้นอนหลับแบบไม่ระหวาดระแวงไหมเนี่ย อยู่กับคนบ้ามากไปเลยจะกลายเป็นบ้าไปแล้ว

     หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง

     

     " อ้าว...อีจิ้งจก "

 

     ผมหันไปมองนังน้ำหนึ่งก่อนที่จะหันหน้ากลับเชิงบอกเป็นนัยๆว่าไม่อยากจะเสวนาด้วย แต่ว่านะถ้าเจอมันตอนนี้แสดงว่ามันเข้างานกะบ่ายพร้อมเรานะสิ โถ่เอ้ย...เซ็งชะมัดเลย


     " ทำไมไม่รีบเข้าไปในร้านล่ะมาเสนอหน้าอยู่แถวนี้ทำไมหรือมีอาชีพใหม่รออยู่แล้วคือการอ่อยผู้ชายข้างหน้าห้องน้ำ ชอบผู้ชายก็ไม่ว่านะแต่การมายืนรอผู้ชายในห้องน้ำแบบนี้มันยังไงกันน้าาา "


     ผมกรอกตา...ก็ว่าจะไม่ต่อล้อต่อเถียงกับมันแล้วนะ แต่พอได้ยินแบบนั้นสักหน่อยแล้วกันก็ดี


     " อืมมมมม ก็ใช่นะ อย่างน้อยก็เป็นอาชีพที่คนหน้าตาดีอย่างผมทำได้ แต่กระเทยแก่หัวโปกหน้าเหี่ยวๆอย่างพี่น่ะ ทำไม่ได้ "

     " อ้าวอินดี้ ไม่อยากจะทะเลาะด้วยเหรอเสียเวลา อุ้ย...ตัวเองๆ สุดหล่อ หยุดก่อนจ้า "


     น้ำหนึ่งกระโดดเข้าหาผู้ชายคนนึงที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ ผู้ชายคนนั้นทำท่าทางตกใจ ก่อนจะถอยหนีตุ๊ด!! ประหนึ่งหนีบตาย...


     " ว่าจะชวนไปเป็นนายแบบ เราเป็นโมเดลลิ่งนะตอนนี้กำลังขาดในแต่พอดีเลย สนไหม? " 

     " ไม่ดีกว่าครับ "

     " ทำไมละพ่อรูปหล่อ ลองก่อนมั้ยละ "

     " ไม่ละครับ! "

     " ทำไมละนี่เราไม่ได้มาหลอกนะ ได้ตั้งวันละสองพันเลยนะ พ่อรูปหล่อเดี๋ยวสิอย่างพึงไป... "


     ฟังดูก็รู้แล้วป่ะว่าหลอก พยายามจูงใจด้วยเงินตั้งสองพัน ฮ่าๆๆ เด็กอนุบาลยังรู้เลยว่าโกหก ดูสิผู้ชายที่มันพยายามล่อลวงก็ใส่เกียร์หมาวิ่งหนีไปเลย


     " โธ่เว้ยย!!! "


     ผมละสมน้ำหน้าจริงๆ


     " มาแล้ววรุ้ง "


     ขนาดนั้นเป็นจังหวะพอดีที่พีมเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาอยู่ในชุดเสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงยีนส์รองเท้าผ้าใบ ตัวสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลา โดยเฉพาะตาสีฟ้าหม่นใครเห็นก็เป็นต้องมอง สรุปคือเด็กจากไปปลิว ทำไมต้องหล่อขนาดนี้มั้ย


     " มาเร็ว เราต้องผ่านนายไปเอาใบปลิว ก่อนจะไปเข้างาน แล้วคราวนี้นะถ้ามีคนทิ้งใบปลิวอีกก็ไม่ต้องเก็บมาแจกใหม่แล้ว...เข้าใจมั้ย "

     " ขอรับแต่ถ้าเราแจกใบปลิวเสร็จแล้วให้เราทำยังไงต่อล่ะ "

     " ก็เดินเล่นอยู่ในห้างไปก่อน ถ้าหิวก็ไปหาอะไรกิน "

     " ให้เราไปช่วยงานเธอได้มั้ย เสิร์ฟอาหารต้องสนุกแน่เลย "

     " ไม่สนุกเลยงานที่ร้านสุกี้ไม่ใช่ว่าใครก็เข้าไปทำได้นะ มันไม่เหมือนกับงานแจกใบปลิวที่นายทำอยู่ "

     " อีจิ้งจก!!! นี่ใครยะ "


      แล้วนังน้ำหนึ่งก็โผลพรวดเข้ามาอยู่ตรงหน้าพีม ผมรับเอาสองมือแป้นพิมพ์กับอีตุ๊ดนี้ไม่ได้ เพราะมันแทบจะสิงเขาอยู่แล้ว มองตาเป็นมัน น้ำลายไหลจนจะเช็ดหัวเข่าอยู่แล้ว

     

     " ไปหลอกคนอื่นเถอะอีตุ๊ด อย่ามายุ่งกับเด็กผม "

     " เด็กแกงั้นหรอ แกไปมีเด็กหน้าต่าหล่อๆ แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ คนอย่างแกนี่นะจะเลี้ยงเด็ก "