ตอนที่ 4

      " เอางี้ ผมตั้งชื่อให้ใหม่ละกันผมตั้งชื่อให้ใหม่ละกันชื่อว่า อัตตาหิอัตตโนนาโถ "

     " ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน "


     เฮ้ย...ผมมองเค้าอย่างตกตะลึง ว่าเค้ายังจะรู้พุทธศาสนสุภาษิตด้วย


     " เราว่าชื่อนี่ไม่ค่อยดีเท่าไหรหรอกมันแปลกเกินไป "

     " ... "


     เหมือนชื่อตัวเองที่บอกมาไม่แปลกอะเนอะ ( มองบนเล็กหน่อย 


     " งั้นเอาเป็นว่านายชื่อ พีม ละกันสั้นดี อีกอย่างก็ยังคงชื่อของนายไว้ด้วย "

     " ได้...งั้นเราจะใช้ชื่อนี้ พีม "


     หลังจากวันนั้นผมไปทำงานตามปกติ อ้อ...งานที่ผมทำหนะคือพนังงานเสริฟอาหาร

     เพล้ง...

     ผมสะดุ้ง แล้วมองจานที่แตกกระจัดกระจายอยู่บนพื้น แล้วก็ถอนหายใจอย่าเหนื่อยๆ โอ้ยย..จะเสร็จงานอยู่แล้วต้องมานั่งเก็บเศษจานที่อยู่บนพื้นอีก เซ็งชิบ...


     " เดินประสาอะไรเนี่ย ทำไมไม่ดูเลย " 

     " แกนั้นแหละเดินประสาอะไรอีจิ้งจกแห้ง แล้วก็นะแกเป็นคนชนฉันเอง "


     ผมมองนางน้ำหนึ่งกระเทยสันดานเสียที่เป็นเพื่อนร่วมงานด้วยสายตาแรงๆ ผมเดินถือจานกองพะเนินมันเดินมาตัวเปล่าก็ควรจะหลบไปทางอื่นไม่ใช่เหรอ


     " ผมถือจานเป็นสิบๆใบคุณไม่เห็นหรือยังไง "

     " ก็ไม่เห็นนะ...พอดีว่าไม่ทันมองหนะ "

     " คนอื่นเค้าจะทำงาน ไม่ได้มาเดินเฉยๆทั้งวันไม่ทำอะไรเลยเมื่อคุณนะ "

     " ก็แกเดินถือไม่ดูเองหนิ "

     " จานมันเยอะจนเลยหน้าผมมาละ ถ้ามีคนช่วย ผมคงไม่ต้องแบกจานทีละเยอะๆ และก็จะไม่มีคนว่างมาเที่ยวเเกล้งคนอื่นเค้าแบบนี้หรอก "

     " เอ้า!! อีจิ้งจกแห้ง พูดให้มันดีๆนะ ฉันจับจาดูแกอยู่ตลอดนั้นแหละแล้วมาว่าฉันอู้ได้ไง "

      " มีใครไม่รู้บ้างละในร้านนี้ว่าคุณมันหัวหมอ ชอบหลบชอบพัก ชอบอู้ ผมก็สงสัยนะว่าทำไมผู้จัดการไม่ไล่คุณออก "


     ผมพูดไปตามความจริงที่ผมประสบมาตลอด


     " อีจิ้งจก "


     เขาทำท่าเหมือนจะโผมาตบ แต่ผมรีบก้มลงไปผูกเชือกรองเท้าและเก็บจาน


     " เข้ามาสิถ้าคุณกล้า "

 

     ผมยิงเศษจานที่เเตกขึ้นมาเพื่อขู่เขา


     " นึกว่าจะกลัวเหรอ "


     พูดไม่ทันขาดคำผู้จัดการร้านก็เข้ามาพร้อมกับตะโกนดังมาว่า


     " หยุด !! ทำไรอะไรกันห่ะ ทะเลาะกันเสียงดังเหมือนหมากัดกันเลย "

     " ก็ดูมันสิพี่พิไล "


     พี่พิไลเห็นจานที่ตกแตกตรงพื้นแล้วถามขึ้นมา


     " ฝีมือเธอสองคนใช่มั้ยห่ะ!! " 


     พี่พิไลถามด้วยน้ำเสียงที่ดุและน่ากลัว แล้วผมก็เล่าสถานการณ์ตอนนั้นให้พี่พิไลฟัง ว่าผมเดินเก็นจานปกติของผมดีๆแต่ว่าพี่น้ำหนึ่งไม่ยอมหลบแถมยังเดินชนผมอีกด้วย


     " ไม่ใช่นะพี่พิไล มันนั้นแหละเดินมาชนผมเอง มันใส่ร้ายหนูค่ะ "


     ผมถึงขั้นตะลึงกับคำแก้ตัวของอีตุ๊ดนั้นโกหกขั้นสุดเลยก็ว่าได้ไหนเขาบอกกันว่าตุ๊ดนิสัยดีทุกคนผมเถียงขาดใจเลยนะว่าไม่จริงง!!! ตุ๊ดไม่ได้นิสัยดีทุกคน แค่บางคนที่นิสัยดี


     " พอแล้ว...พอกันทั้งสองคนเลย เลิกหาข้อเเก้ตัวละไปเก็บจานให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้!!! ถ้ามีใครเดิรมาเหยียบเข้าจะว่ายังไง "


     ผมพยักหน้าแล้วรีบก้มลงไปเก็บจานอย่างรวดเร็ว ถ้าโดนไล่ออกขึ้นมานะตายแน่ๆช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีอยู่ด้วย


     " ฉันขอเตือนไว้ตรงนี้เลยนะว่าถ้าหากพวกเธอทะเลาะกันจนเป็นเรื่องเป็นราวหรือมีครั้งต่อปอีกละก็ฉันบอกได้เลยว่าฉันจะไล่ออกทั้งคู่ เข้าใจมั้ย?? "

     " เข้าใจค่ะ " ฉันตอบ 

     " ค่ะ "

     " อ้อ แล้วก็นะฉันจะหักเงินเดือนพวกเธอทั้งสองคนเป็นค่าชดเชยที่ทำจานแตก "


     ผมคิดในใจถ้าโดนหักเงินไปผมเองจะมีเงินพอที่จะจ่ายคาเทอมมั้ย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ทำได้แค่เลิกงานแล้วกลับห้องขอตัวเอง


     ห้อง 707 

     เปิดประตูมาเจอพีม ผมถึงกับสะดุ้งตกใจไม่ใข่อะไรนะคือยังไม่ชินที่มีคนมาอยู่ในห้องด้วย แถมยังเป้นใครไม่รู้อีก


     " รุ้ง...กลับมาแล้ว "


     ดีใจเหมือนน้องหมาได้เจอเจ้าของเลย แต่ผมเองก็ไม่ได้สนใจอะไรนักเลยเดินเข้าครัวไปอยู่มุมห้องเพื่อทำโจ๊ก


     " ไปทำงานมาเป็นไงบ้าง สนุกมั้ย?? "

     " ไม่สนุก ไม่เลยแม้แต่นิดเดียว "

     " เออ...พีมข้าวที่อยู่ในถังสามารถหุงกินได้นะแต่ต้องหุงพอกิน เพราะเราต้องช่วยกันปรับหยัดค่าใช้จ่ายส่วนวิธีหุงก้ง่ายมาก แค่ตักข้าวสารใส่หม้อแล้วล้างน้ำประมาณ 2 - 3 ครั้งแล้วเอาน้ำใส่ข้าวสาร 1 แก้วน้ำครึ่งข้อนิ้วชี้แบบนี้ "


     บลาๆๆ ผมก็อธิบายวิธีเสียบหม้อกดหุงข้าวและอื่นนๆให้อีกเยอะเเยะ แต่ทันใดนั้น


     โครกกกกก ครากกก

     เสียงท้องของผมมันก็ร้องขึ้นมา ผมเลยตั้งหน้าตั้งตาทำโจ้กให้เสร็จ


     " โจ้กเสร็จแล้วว ได้เวลากินมื้อเย็นแล้ว "

     " ว้าวว น่ากินจังเลยรุ้งหอมด้วย "

     " นั่งลงสิ เดี๋ยวตังให้กิน "


     หลังจากนั่งกินกันไปสักพักผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าวันนี้เค้าได้กินน้ำหรือยังนะ เพราะผมไม่ได้บอกเค้าไว้ว่าน้ำต้องกินยังไง 


     " เออ แล้วนายเอาน้ำที่ไหนกินเนี่ย หรือวันนี้ยังไม่ได้กินน้ำ? "

     " อ้อ...ดื่มสิ "

     " จากไหน?? "

     " จากสายยางในห้องน้ำ "

     " ห้ะ...สายยางตรงข้างชักโครกอะนะ "

     " ใช่...ทำไมเหรอ "


     ผมนิถึงกับหน้าเหวอเลย เพราะไอสายยางที่เค้าว่าอะมันคือสายยางฉีดก้น!!!