" ก๊อกๆๆๆๆ "
" รุ้งอยู่มั้ยครับ! "
เสียงผู้ชาย...คงเป็นใครไปไม่ได้ที่สามารถเข้าออกหอนี้ได้อย่างสบายใจนั้นคือ...น้องสกาวลูกชายเจ้าของหอ
" นะ...นั้นสกาวเหรอคะ?? "
" ครับ...เปิดประตูให้ผมหน่อยได้มั้ยครับ "
ผมกวากสายตาดูสภาพห้อง ถึงกับกลืนน้ำลายเลยทีเดียวแถมเพดานยังพังอีก ที่สำคัญนะยังมีใครก็ไม่รู้อยู่ในห้องอีก
" ไป~~~ไปแอบเร็วๆ!! "
" เราต้องเเอบด้วยเหรอ "
" เออสิ... "
ไม่ไปเเอบได้ไงก่อนหอนี้ระบบความปลอดภัยสูงขนาดนี้มีแค่คนที่เช้าที่จะเข้าได้เพราะป้าเจ้สของหอแกโหดขั้นสุด
" โอ้... "
เจ้าจิ้งจองตัวนั้นวิ่งวนทั่วห้องหาที่แอบใหญ่เลย
แอ๊ด~~~~
" ว่าไงสกาว "
หอนี้ที่จริงไม่มีใครเขาอยากจะอยู่หรอกทั้งลิฟต์เสียมาหลายปีแล้วก็ยังไม่ซ้อม ชั้นสองก็มีคนผู้คอตาย ชั้นเจ็ดที่ผมอยู่ก็ยังรีโนเวตใหม่ มีอีกหลายห้องเลยในชั้นนี้ที่ยังทำไม่เสร็จบางห้องถึงจะเสร็จแต่ก็ไม่มีคุณภาพ เป็นเพราะสกาวนี่แหละที่ทำให้คนในห้องนี้ยังคงอยู่กัน
" เมื่อสัก 20 นาทีที่แล้วมีเสียงตั้งตูม ดังทั่วหอเลยรุ้งได้ยินบ้างหรือเปล่า "
" อ้ออ...กะ...ก็ได้ยินอยู่นะ "
" นั้นแหละครับ ผมเลยขึ้นมาดูสักหน่อย แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ "
" .... "
" รุ้ง...โอเคดีอยู่มั้ย "
" อ้อ...โอเคดี "
" วันนี้ดูแปลกๆไปนะ "
" หรอ "
" มีอะไรคุยกับผมได้นะ ทุกเรื่องเลย "
" อืมม...โอเคไว้มีไรค่อยไปปรึษานะ "
" งั้นถ้าไม่มีอะไรผมไปก่อนนะ "
" โอเค "
หลังจากที่สกาวเดินกลับลงไปผมก็ได้เดินกลับเข้ามาในห้องแล้วปิดประตู มีผู้ชายคนหนึ่งชะโงกหน้าออกมาจากห้องน้ำแล้วพูดกับผมว่า...
" เราทำให้คุณลำบากใช่มั้ย "
ผมเองนิไปไม่ถูกเลยเพราะใจหนึ่งก็สงสารเขาคนนั้นอีกใจก็คิดไปว่าถ้าให้เค้าอยู่ด้วยตัวผมเองต้องลำบากจนไม่มีจะกินแน่ๆ
" แต่ได้โปรดช่วยเราด้วยนะ ขอแค่หนึ่งเดือนในโลกมนุษย์ก็ยังดี "
โอ้ยย...สายตากับน้ำเสียงที่ออดอ้อนนั้นมันอะไรกัน
" อะ...เราให้คุณอีกเม็ดนึง "
" ฮะ... "
" เราขออยู่ด้วยหนึ่งเดือน เพียงสามเดือนเท่านั้น "
" สามเดือนของมนุษย์นะ ไม่เอาของแดนนรก "
เค้าพยักหน้าแบบรัวๆ
" เออ.... "
" ... "
เค้ามาผมตาแป๋วเลยแหละ เหมือนกำลังสื่อว่าโปรดให้เค้าอยู่ด้วย
" งั้น...เอาเป็นว่าา "
" ว่าา... "
" เรา...ให้นายอยู่ด้วยก็ได้ แต่...นายต้องช่วยพวกงานในห้องนี้ไม่จะล้างจาน หุงข้าว ทำกับข้าว และนายต้องซ้อมเพดานนั้นสะด้วย ที่สำคัญถ้าหากว่าครบหนึ่งเดือนแล้วนายต้องไปจากที่นี้เลยโดนไม่มีข้อแม้ "
" ได้...เราตกลงเรารับปาก "
เย้~~~เสียงเค้าดีใจลั่นห้องไปเลย อันที่จริงที่ผมเองให้เค้าอยู่ด้วยได้เพราะเค้ามีเพชรนั้นคือสิ่งที่มันจะช่วยจ่ายค่าเทอม ค่ากินค่าอยู่ผมได้ ถ้าไม่มีีีสิ่งพวกนั้นผมคงไม่ให้เค้าอยู่
โรงรับจำนำ
แน่นอนว่าผมต้องเปลี่ยนมันเป็นเงินทันที
" นี้มันไม่ใช่เพชร "
" ฮะ...ไม่ใช่เพชรได้ไงดูใหม่สิอาซิ้ม "
" อั๊วดูกลายรอบแล้วหนะ ยังไงก็ไม่ใช่เพชร "
ผมเองเริ่มคิดมากเเล้วว่าไอคนที่ให้มาไม่รู้หรือไงว่าให้ของปลอมมา ถ้ากลับไปนะผมจะพาตำรวจไปด้วยคอยนะ
" มันไม่เหมือนอะไรสักอย่างเลยที่อั๊วรู้จัก เพชรก็ไม่ใช่ พลอยก็ไม่ใช่ คริสตัลก็ไม่ใช่ "
" เฮอ...สรุปปลอมงั้นผมขอคืนนะครับ "
" เดี๋ยวสิ.. ใจเย็นๆฟังก่อน"
" ครับซิ้ม... "
" อั๊วกำลังจะบอกว่าเพชรอะคืออะไรไม่รู้ แต่ตัวแหวนนะเป็นทองแท้ "
" ทองแท้!!! "
ผมทวนถามซ้ำว่าจริงๆใช่มั้ย ผมนิตะลึงไปเลยแล้วก็ดีใจด้วยย เยส......
" ช่ายยๆ มันเป็นทองจริงๆ แล้วตกลงลื้อจะจำนำอยู่อีกมั้ย "
" จำนำสิครับซิ้ม แล้วผมจะได้เท่าไหร่ครับ? "
" แล้วลื้อจะมีเงินมาคืนเหรอ? "
ผมส่ายหน้า ผมไม่มีเงินไถคืนหรอกแค่เงินซื้อข้าวกินยังยากเลยแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาไถคืน
" ถ้าไม่มีซิ้มก็ริบไปได้เลยครับ "
อาซิ้มพยักหน้าโอเคแล้วจัดการออกตั๋วนับจำนำให้ เมื่อทุกอย่างเสร็จ ผมก็เดินกอดเงินห้าหมื่นบาทยิ้มเเฉ่ง เพราะผมดีใจสุุดๆที่มีเงินจ่ายค่าเทอมของเทอมนี้แล้ว
" อ้าว...รุ้งห้อง 707 ใช่มั้ย "
" ค่ะ! "
หน้าป้าแกคือพร้อมทวงหนีแบบสุดๆเลย
" ค่าห้องละ...สองเดือนแล้วนะ ป้าไม่เคยให้ใครติดนานขนาดนี้นะ "
" อ้อค่ะ... "
ผมเปิดกระเป๋าอย่างระมัดระวังแล้วค่อยๆยิบเงินค่าหอออกมา
" นี้ครับป้าเงินค่าหอสองเดือนที่ผ่านและเเหละก็ของเดือนนี้ด้วยรวมทั้งหมดเป็นหกพันหกร้อยบาท "
" อุ้ย...ต๊ายตาย ได้เงินมาจากไหนกันละนี้เยอะเเยะเชียว "
ป้าแกคงคิดว่าคนอย่างผมมีเงินขึ้นมาได้ยังไงทั้งๆที่ก่อนหน้าลำบากยังกับอะไรดี
" ครบนะครับป้า งั้นผมไปก่อน สวัสดีครับ "
หลังจากผมขอตัวออกมาเเล้วเดินขึ้นห้องไปป้าแกก็เอาแต่นับเงินจับเงินเหมือนคนที่พึงเคยได้อะไรแบบนี้เป็นครั้งแรก
กึก...ผมหยุดปิดประตูค้างไว้ เมื่อตระหนักว่านับจากนี้ไปอีกสามเดือน ผมเองจะมีรูเมตที่ค่อยอยู่ด้วยกันกับผม แต่ตกลงไว้แล้วยังไงก็ต้องทนเอา
" โอ้ย~~~ทำไมห้องรกแบบนี้เนี่ย ทำไมนายไม่ทำความสะอาดเนี่ย! "
ผมพูดเสียงดังลั่นด้วยความโมโหและหงุดหงิด
" คุณกลับมาแล้วเหรอ?? "
" ตาบอดหรือไงเนี่ยย...ก็ต้องกลับมาแล้วสิไม่งั้นคงไม่ยืนหัวโด่อยู่แบบนี้หรอก ทำไมนายไม่เก็บกวาดห้อง "
" เราไม่มีพลัง...เราเลยไม่สามารถทำได้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ "
" บนโลกมนุษย์เนี่ยไม่จำเป็นต้องใช้พลังย้ายสิ่งของหรอกนะ ใช้มือยิบจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งก็ได้แล้ว "
" อ่าว..หรอ ทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ... "
" โอ้ย~~ได้สิ "
ผมละหนักใจกับคนคนนี้จริงๆเลย
" แล้วแหวนละขาวแล้วหรือยัง "
" เปล่า...ไม่ได้ขาย แต่...เอาไปจำนำ "
" แล้วเราจะทำยังไงกับซากปรักหักพังพวกนี่ดี พลังการบูรณะก็ใช้ไม่ได้ "
" ใครบอกละว่าไม่มี "
ผมยื่นไม้กวาดกับที่โกยขยะให้ เจ้าตัวมองมันแปลกๆเหมือนกำลังใช้ความคิด
" เครื่องมือในการทำความสะอาดของโลกมนุษย์เหรอ "
" ใช่...รังไปสะสิ "
" แต่เราทำไม่เป็นนะ "
ทำอะไรเป็นบ้างเนี่ย นอกจากคุยว่าตัวเองมีพลังโน้นนี่นั้น
" มะๆ...เดี๋ยวสอนให้ "
หลังจากที่พูดเสร็จผมก็สอนสาธิตและอธิบายการทำให้เค้าฟังรวมถึงทำให้เค้าดูด้วย แต่ถ้าสอนเสร็จละก็ผมจะทิ้งเค้าให้ใช้แรงไปส่วนตัวผมเองก็จะไปนั่งสบายๆดู
" คงเป็นแล้วเเหละเนอะ อะ...นี้ ทำไปนะ อย่าลืมเก็บซากด้วยหละ "
" เข้าใจเเล้ว "
เค้ารับคำแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาเก็บกวาดห้อง
" นี่...ผมชื่อรุ้งนะ ครั้งหลังก็เรียกชื่อหละ "
" ได้ "
" นายละชื่ออะไรนะฉันจำไม่ได้ "
" พีมลานซาลาดอนเอคิสนาอาเรส "
ผมนิถึงกับเอามือเกาหัวเลยคนบ้าบออะไรชื่อยาวเป็นห่างเว่าเลย
"นายมีชื่อคนป่ะ แบบชื่อที่มันสั้นๆอะ "
" เเล้วชื่อเรามันเรียกยากเหรอ?? "
โห้...ไม่น่าถามนะว่าเรียกยากมั้ย ต้องถามแบบนี้ดีกว่าว่าจะมีใครเรียกได้อีก