ตอนที่ 3

     " ก๊อกๆๆๆๆ "

     " รุ้งอยู่มั้ยครับ! "


     เสียงผู้ชาย...คงเป็นใครไปไม่ได้ที่สามารถเข้าออกหอนี้ได้อย่างสบายใจนั้นคือ...น้องสกาวลูกชายเจ้าของหอ


     " นะ...นั้นสกาวเหรอคะ?? "

     " ครับ...เปิดประตูให้ผมหน่อยได้มั้ยครับ "


     ผมกวากสายตาดูสภาพห้อง ถึงกับกลืนน้ำลายเลยทีเดียวแถมเพดานยังพังอีก ที่สำคัญนะยังมีใครก็ไม่รู้อยู่ในห้องอีก


     " ไป~~~ไปแอบเร็วๆ!! "

     " เราต้องเเอบด้วยเหรอ "

     " เออสิ... "


     ไม่ไปเเอบได้ไงก่อนหอนี้ระบบความปลอดภัยสูงขนาดนี้มีแค่คนที่เช้าที่จะเข้าได้เพราะป้าเจ้สของหอแกโหดขั้นสุด


     " โอ้... "


     เจ้าจิ้งจองตัวนั้นวิ่งวนทั่วห้องหาที่แอบใหญ่เลย


     แอ๊ด~~~~


     " ว่าไงสกาว "

     

     หอนี้ที่จริงไม่มีใครเขาอยากจะอยู่หรอกทั้งลิฟต์เสียมาหลายปีแล้วก็ยังไม่ซ้อม ชั้นสองก็มีคนผู้คอตาย ชั้นเจ็ดที่ผมอยู่ก็ยังรีโนเวตใหม่ มีอีกหลายห้องเลยในชั้นนี้ที่ยังทำไม่เสร็จบางห้องถึงจะเสร็จแต่ก็ไม่มีคุณภาพ เป็นเพราะสกาวนี่แหละที่ทำให้คนในห้องนี้ยังคงอยู่กัน


     " เมื่อสัก 20 นาทีที่แล้วมีเสียงตั้งตูม ดังทั่วหอเลยรุ้งได้ยินบ้างหรือเปล่า "

     " อ้ออ...กะ...ก็ได้ยินอยู่นะ "

     " นั้นแหละครับ ผมเลยขึ้นมาดูสักหน่อย แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ "

     " .... "

     " รุ้ง...โอเคดีอยู่มั้ย "

     " อ้อ...โอเคดี "

     " วันนี้ดูแปลกๆไปนะ "

     " หรอ "

     " มีอะไรคุยกับผมได้นะ ทุกเรื่องเลย "

     " อืมม...โอเคไว้มีไรค่อยไปปรึษานะ "

     " งั้นถ้าไม่มีอะไรผมไปก่อนนะ "

     " โอเค "


    หลังจากที่สกาวเดินกลับลงไปผมก็ได้เดินกลับเข้ามาในห้องแล้วปิดประตู มีผู้ชายคนหนึ่งชะโงกหน้าออกมาจากห้องน้ำแล้วพูดกับผมว่า...


     " เราทำให้คุณลำบากใช่มั้ย "


     ผมเองนิไปไม่ถูกเลยเพราะใจหนึ่งก็สงสารเขาคนนั้นอีกใจก็คิดไปว่าถ้าให้เค้าอยู่ด้วยตัวผมเองต้องลำบากจนไม่มีจะกินแน่ๆ


     " แต่ได้โปรดช่วยเราด้วยนะ ขอแค่หนึ่งเดือนในโลกมนุษย์ก็ยังดี "


     โอ้ยย...สายตากับน้ำเสียงที่ออดอ้อนนั้นมันอะไรกัน


     " อะ...เราให้คุณอีกเม็ดนึง "

     " ฮะ... "

     " เราขออยู่ด้วยหนึ่งเดือน เพียงสามเดือนเท่านั้น "

     " สามเดือนของมนุษย์นะ ไม่เอาของแดนนรก "

     

     เค้าพยักหน้าแบบรัวๆ


     " เออ.... "

     " ... "


     เค้ามาผมตาแป๋วเลยแหละ เหมือนกำลังสื่อว่าโปรดให้เค้าอยู่ด้วย


     " งั้น...เอาเป็นว่าา "

     " ว่าา... "

     " เรา...ให้นายอยู่ด้วยก็ได้ แต่...นายต้องช่วยพวกงานในห้องนี้ไม่จะล้างจาน หุงข้าว ทำกับข้าว และนายต้องซ้อมเพดานนั้นสะด้วย ที่สำคัญถ้าหากว่าครบหนึ่งเดือนแล้วนายต้องไปจากที่นี้เลยโดนไม่มีข้อแม้ "

     " ได้...เราตกลงเรารับปาก "


     เย้~~~เสียงเค้าดีใจลั่นห้องไปเลย อันที่จริงที่ผมเองให้เค้าอยู่ด้วยได้เพราะเค้ามีเพชรนั้นคือสิ่งที่มันจะช่วยจ่ายค่าเทอม ค่ากินค่าอยู่ผมได้ ถ้าไม่มีีีสิ่งพวกนั้นผมคงไม่ให้เค้าอยู่


     โรงรับจำนำ

     แน่นอนว่าผมต้องเปลี่ยนมันเป็นเงินทันที


     " นี้มันไม่ใช่เพชร "

     " ฮะ...ไม่ใช่เพชรได้ไงดูใหม่สิอาซิ้ม "

     " อั๊วดูกลายรอบแล้วหนะ ยังไงก็ไม่ใช่เพชร "


     ผมเองเริ่มคิดมากเเล้วว่าไอคนที่ให้มาไม่รู้หรือไงว่าให้ของปลอมมา ถ้ากลับไปนะผมจะพาตำรวจไปด้วยคอยนะ


     " มันไม่เหมือนอะไรสักอย่างเลยที่อั๊วรู้จัก เพชรก็ไม่ใช่ พลอยก็ไม่ใช่ คริสตัลก็ไม่ใช่ "

     " เฮอ...สรุปปลอมงั้นผมขอคืนนะครับ "

     " เดี๋ยวสิ.. ใจเย็นๆฟังก่อน"

     " ครับซิ้ม... "

     " อั๊วกำลังจะบอกว่าเพชรอะคืออะไรไม่รู้ แต่ตัวแหวนนะเป็นทองแท้ "

     " ทองแท้!!! "


     ผมทวนถามซ้ำว่าจริงๆใช่มั้ย ผมนิตะลึงไปเลยแล้วก็ดีใจด้วยย เยส......


     " ช่ายยๆ มันเป็นทองจริงๆ แล้วตกลงลื้อจะจำนำอยู่อีกมั้ย "

     " จำนำสิครับซิ้ม แล้วผมจะได้เท่าไหร่ครับ? "

     " แล้วลื้อจะมีเงินมาคืนเหรอ? "


     ผมส่ายหน้า ผมไม่มีเงินไถคืนหรอกแค่เงินซื้อข้าวกินยังยากเลยแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาไถคืน


     " ถ้าไม่มีซิ้มก็ริบไปได้เลยครับ "


     อาซิ้มพยักหน้าโอเคแล้วจัดการออกตั๋วนับจำนำให้ เมื่อทุกอย่างเสร็จ ผมก็เดินกอดเงินห้าหมื่นบาทยิ้มเเฉ่ง เพราะผมดีใจสุุดๆที่มีเงินจ่ายค่าเทอมของเทอมนี้แล้ว


     " อ้าว...รุ้งห้อง 707 ใช่มั้ย "

     " ค่ะ! "


     หน้าป้าแกคือพร้อมทวงหนีแบบสุดๆเลย


     " ค่าห้องละ...สองเดือนแล้วนะ ป้าไม่เคยให้ใครติดนานขนาดนี้นะ "

     " อ้อค่ะ... "


     ผมเปิดกระเป๋าอย่างระมัดระวังแล้วค่อยๆยิบเงินค่าหอออกมา


     " นี้ครับป้าเงินค่าหอสองเดือนที่ผ่านและเเหละก็ของเดือนนี้ด้วยรวมทั้งหมดเป็นหกพันหกร้อยบาท "

     " อุ้ย...ต๊ายตาย ได้เงินมาจากไหนกันละนี้เยอะเเยะเชียว "


     ป้าแกคงคิดว่าคนอย่างผมมีเงินขึ้นมาได้ยังไงทั้งๆที่ก่อนหน้าลำบากยังกับอะไรดี


     " ครบนะครับป้า งั้นผมไปก่อน สวัสดีครับ "


     หลังจากผมขอตัวออกมาเเล้วเดินขึ้นห้องไปป้าแกก็เอาแต่นับเงินจับเงินเหมือนคนที่พึงเคยได้อะไรแบบนี้เป็นครั้งแรก

      กึก...ผมหยุดปิดประตูค้างไว้ เมื่อตระหนักว่านับจากนี้ไปอีกสามเดือน ผมเองจะมีรูเมตที่ค่อยอยู่ด้วยกันกับผม แต่ตกลงไว้แล้วยังไงก็ต้องทนเอา


     " โอ้ย~~~ทำไมห้องรกแบบนี้เนี่ย ทำไมนายไม่ทำความสะอาดเนี่ย! "


     ผมพูดเสียงดังลั่นด้วยความโมโหและหงุดหงิด


     " คุณกลับมาแล้วเหรอ?? "

     " ตาบอดหรือไงเนี่ยย...ก็ต้องกลับมาแล้วสิไม่งั้นคงไม่ยืนหัวโด่อยู่แบบนี้หรอก ทำไมนายไม่เก็บกวาดห้อง "

     " เราไม่มีพลัง...เราเลยไม่สามารถทำได้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ "

     " บนโลกมนุษย์เนี่ยไม่จำเป็นต้องใช้พลังย้ายสิ่งของหรอกนะ ใช้มือยิบจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งก็ได้แล้ว "

     " อ่าว..หรอ ทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ... "

     " โอ้ย~~ได้สิ "


     ผมละหนักใจกับคนคนนี้จริงๆเลย


     " แล้วแหวนละขาวแล้วหรือยัง "

     " เปล่า...ไม่ได้ขาย แต่...เอาไปจำนำ "

     " แล้วเราจะทำยังไงกับซากปรักหักพังพวกนี่ดี พลังการบูรณะก็ใช้ไม่ได้ "

     " ใครบอกละว่าไม่มี "


     ผมยื่นไม้กวาดกับที่โกยขยะให้ เจ้าตัวมองมันแปลกๆเหมือนกำลังใช้ความคิด


     " เครื่องมือในการทำความสะอาดของโลกมนุษย์เหรอ "

     " ใช่...รังไปสะสิ "

     " แต่เราทำไม่เป็นนะ "


     ทำอะไรเป็นบ้างเนี่ย นอกจากคุยว่าตัวเองมีพลังโน้นนี่นั้น


     " มะๆ...เดี๋ยวสอนให้ "


     หลังจากที่พูดเสร็จผมก็สอนสาธิตและอธิบายการทำให้เค้าฟังรวมถึงทำให้เค้าดูด้วย แต่ถ้าสอนเสร็จละก็ผมจะทิ้งเค้าให้ใช้แรงไปส่วนตัวผมเองก็จะไปนั่งสบายๆดู


     " คงเป็นแล้วเเหละเนอะ อะ...นี้ ทำไปนะ อย่าลืมเก็บซากด้วยหละ "

     " เข้าใจเเล้ว "


     เค้ารับคำแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาเก็บกวาดห้อง


     " นี่...ผมชื่อรุ้งนะ ครั้งหลังก็เรียกชื่อหละ "

     " ได้ "

     " นายละชื่ออะไรนะฉันจำไม่ได้ "

     " พีมลานซาลาดอนเอคิสนาอาเรส "


     ผมนิถึงกับเอามือเกาหัวเลยคนบ้าบออะไรชื่อยาวเป็นห่างเว่าเลย


     "นายมีชื่อคนป่ะ แบบชื่อที่มันสั้นๆอะ "

     " เเล้วชื่อเรามันเรียกยากเหรอ?? "


     โห้...ไม่น่าถามนะว่าเรียกยากมั้ย ต้องถามแบบนี้ดีกว่าว่าจะมีใครเรียกได้อีก