ผมไม่รู้ว่าควรตกใจกับเรื่องอะไรก่อนดี ระหว่างเรื่องที่อยู่ดีๆเพดานห้องตัวเองพังถล่มลงมา มีรูขนาดใหญ่เบ้อเร่อเลยก็ว่าได้แบบมองเห็นท้องฟ้าข้างบนกับ...สิ่งที่ตกลงมากลางห้องมันไม่ใช่อุกาบาต ไม่ใช่เอเลี่ยน แต่เป็นมนุษย์เพศชายคนหนึ่ง แถมยังพูดภาษาคนได้อีกหรือว่า...ผมควรตกใจกับการที่มีคนทะลุเพดานลงมาประเด็นสำคัญคือ...เค้าไม่ใส่อะไรเลยสักอย่าง!
" คุณเข้าใจภาษาที่ผมพูดมั้ย "
เขาเอียงคอเล็กน้อยแล้วมองอย่างสงสัย แน่นอนว่าเข้าใจแต่ผมยังช็อกอยู่...คือไม่รู้จะเริ่มพูดด้วยอะไรก่อนดี...เกิดมาก้เพิ่งจะเคยเห็นอะไรแบบนี้ ยังงี้นิเรียกว่าใหญ่หรือเล็กนะ โอ๊ยยยย! มันใช่เรื่องที่จะต้องคิดไหมเนี่ย
" เราว่าเราพูดภาษามนุษย์ได้นะ หรือนี่ไม่ใช่ภาษาของประเทศคุณ แต่...ไม่ว่าจะภาษาอะไรก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับปีศาจอย่างเราสักหน่อย"
ผู้ชายตรงหน้ากำลังพึมพำ แล้วหันมามองทางเราอย่างว้าวุ่นและก้าวเท้ามาใกล้!
ฮะ...เฮ้ย เดี๋ยว!
" ยะ...หยุด! ไม่ต้องเข้ามาาา!!!!
ผมห้ามจนเสียงหลง ไม่อยากให้ผู้ชายชีเปลือยเข้ามาใกล้ตัวเองมากว่านี้ อึ๋ยย...เเค่คิดว่าเข้ามาใกล้ก็ขนลุกขนพองไปหมด
" นายพูดได้! ขอบคุณพระเจ้า เฮ่อ! โล่งอกไปทีนึกว่าจะเป็นใบ้สะล่ะ
" นะ...นายน่ะ "
ผมเรียกเขาพลางหันหน้าหนีไปทางอื่น แต่ขนาดมองไปที่อื่นแล้ว มันก็ยังติดตาอยู่เลยเนี้ย...โอ้ยยยย นี่ไม่รู้จักอายบ้างหรือยังไงฮะ
" ว่าอย่างไรละมนุษย์ "
" นะ...นายเป็นใคร ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ แล้วมาอยู่ห้องผมได้ยังไง "
"เราเป็นปีศาจจิ้งจอกเราบอกคุณไปแล้วนะ บังเอิญว่าเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยเราเลยต้องลงมายังโลกมนุษย์ และ...เราขอโทษที่ทำให้ห้องของคุณต้องเสียหายนะ "
" นายต้องรับผิดชะ...เฮ้ยยย!! ช่วยหาอะไรใส่ก่อนได้ไหมฮะ "
ผมร้องอย่างเหลืออดเมื่อหันไปเห็น...โอ๊ยยย!! ใครจะไปคุยกับคนที่ยืนโป๊ไม่ใส่อะไรแบบนี้เล่า ผมก็ไม่อยากจะมองมันหรอกนะ แต่พอหันไปมันก็เห็นเลยนี่หน่า...พอดันไปเห็นก็ลืมเรื่องที่จะพูดไปหมดเลยสะงั้น โอ้ยยยย!!! จะบ้าตายย
" คุณหมายถึง...อะไร "
" นายจะยืนโป๊แบบนี้อีกนานมั้ยห่ะ!! "
ผมแหวลั่นในขณะที่อีกฝ่ายยืนนิ่ง...ไม่สะทบสะท้านอะไรเลยสักนิดเลย
" อ่อ...นี่มันไม่ถูกต้องหรืออย่างไร "
เฮ้อ!! ผมถอนหายใจแล้วกลอกตาแรงๆ ใส่กัับประโยคนั้น ยังมีหน้ามาถามอีกเนอะว่าถุกหรือผิดถึงผมจะไม่รู้ว่าไอหมอนี่มาจากไหนกันแน่ แต่ผมก็เชื่อว่าด้วยมารายาททาสังคมทั้งโลกและจักรวาล รวมถึงแดนนรกก็เถอะ เขาคงไม่มายืนแก้ผ้าตุยกับคนอื่นหรือคนแปลกหน้าหรอกนะ
" การที่เราเปลือยเปล่าแบบนี้ทำให้คุณไม่พอใจหรอกหรือ "
" โอ้ย ยังจะมีหน้ามาถามอีก หาอะไรใส่สักทีได้มั้ยเนี่ย !! "
" คุณหมายถึงให้หาอะไรปกปิดร่างกาย? "
" เออ!! "
ผมระเบิดเสียงดังลั่น ทำไมถึงได้เข้าใจอะไรได้ยากขนาดนี่เนี่ย จะว่าแกล้งโง่ก็คงไม่ใช่ เพราะสีหน้าท่าทางของเค้าดูสงสัย ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าผู้ชาคนนี้ทำเหมือนกับว่าการที่ยืนโป๊ไม่ใส่อะไรมันเป็นเรื่องปกติอย่างงั้นล่ะ
" แต่ทำไมต้องปิดด้วยเล่า หรือว่ารูปร่างของเรามันน่ารังเกียจ... "
จะบอกว่ามันน่ารังเกียจก็ไม่ใช่
" หรือมันทำให้คุณหวาดกลัว "
ก็ไม่ได้น่าหวาดกลัว แต่มัน...โอ้ยย คุยกับแปลกหน้าที่ไม่ใส่เสื้อผ้ามันก็หนักเกินไปป่ะ
" หรือว่า...เราดูดีเกินไปจนทำให้คุณเกิดกิเลสตัณหาอยากจะครอบครอง "
ละ...เหลือเชื่อ ไอบ้านี่มันพล่ามอะไรอยู่เนี่ยย!!
" ถ้าเช่นนั้น... "
" มันอุบาทว์ต่างหากโว้ย! "
ผมแทรกขึ้นมาอย่างเหลืออด ทนฟังอีกฝ่ายเพ้อเจ้อเข้าข้างตัวเองต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ แต่พอหันไปเห็นสิ่งนั้นเต็มสองตา ผมก็รีบหันหนีแล้วหลับตาปี๋
" จริงหรือที่เราอุบาทว์ "
อีกฝ่ายก้มมองตัวเองแล้วก็ถามอย่างไม่เข้าใจ นี่ผมขอขอยากไปเหรอ...ขอแค่ให้ใส่เสื้อผ้าเนี่ยมันยากไปหรืออะไร ทำไมไม่หามาใส่สักทีเนี่ย!!
" ไม่เคยมีใครเลยนะที่บอกว่าอุบาทว์ คุณคือคนแรก "
" ... "
" ดวงตาของเธอมีปัญหาหรือเปล่าเนี่ยย "
โว้ย!! พอกัน ผมเดินที่ตู้เสื้อผ้าเองซะเลย มองหาอะไรก็ได้ที่เค้าพอจะใส่ได้มา ผมเหลือบไปเห็นกางเกงขาสั้นที่อยู่มุมตู้ด้านล่างยางของกางเกงตัวนั้นเสื่อมพอดีเค้าน่าจะใส่ได้
" เอ้า...ใส่ซะ "
" นี่คือ... "
"กางเกงไง ใส่ๆไปเถอะ "
" นี่เราอุบาทว์จนถึงขั้นไม่สามารถมองได้เลยเหรอ "
" โอ้ยย!! เลิกบ่นแล้วใส่มันซะเลิกขยับตัวด้วย "
ถ้าเกิดว่าขยับตัวซี้ซั้วแล้วไอนั้น...มาโดนตัวขึ้นมา..อี๋! แค่คิดก็ขนลุกขนพองไปหมด
" อยากลองจับมั้ย...ร่างกายนี้สัมผัสได้เช่นมนุษย์ชายทั่วไป มันไม่ได้น่าเกลียดน่ากลัวอย่างที่คิดหรอกนะ "
หมับบบ!!!!!
" กรี๊ดดดดดดดดดดด อะ...ไอ้...บ้าเอ้ยยย "
ผมแหกปากลั่นเมื่อเค้าคว้ามือผมไปจับไอนั้นของเค้า มะ...ไม่ไหวแล้ววว
" พอ พอกันที "
ผมสะบัดมือออกแล้วพูดอย่างหมดความอดทน
" ผมจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้านายยังไม่ใส่กางเกงอีกละก็ ผมจะตัดไอจ้อนนั่นของนายทิ้งซะ!! "
" จะตัดทำไมละมนุษย์ คุณจะไม่เสียดายมันเหรอ "
เสียดายเหรอ...ยังมีหน้ามาพูดว่าเสียดาย ไอหมอนี่มียางอายบ้างมั้ยเนี่ย มันต้องไม่ใช่มนูษย์ปกติแน่ๆ
" ใส่กางเกง เดี๋ยวนี้!! "
" แต่นี่มันสีดำ...เราไม่ดหมาะกับสีดำ "
ฉันเดินไปยิบมีดในครัวมาแล้วยกมันมันขึ้นมาอย่างช้าๆ ทำหน้าเชิงบอกให้เค้าเลือกว่าจะใส่หรืออยากจะโดนตัดไอนั่น เค้ามองหน้าผมที่เอาจริงเอาจัง สุดท้ายเค้าก็ถอนหายใจแล้วก็ยอมแพ้ไป
" มนุษย์นี่ช่างเเปลก ของดีแบบนี้กลับไม่ต้องการเห็น "
ผมปล่อยให้เค้าพล่ามอะไรไปเรื่อย ผมเลยตัดสินใจว่ามันต้องถึงเวลาที่ต้องมานั่งจับเข่าคุยกันจริงๆสักที
" นายเป็นใครกันแน่ห่ะ?? "
" คุณถามแบบนี้อีกแล้ว เราบอกแล้วไงว่าเราเป็นเทวดเราบอกแล้วไงว่าเราเป็นปีศาจจิ้งจอก "
" ปีศาจจิ้งจอก ? "
" อื้ม ปีศาจจิ้งจอก "
ผมมองอย่างสงสัยว่าปีศาจเหรอเคยได้ยินแต่นิทานหลอกเด็ก แล้วก็ในนิยายแฟนซี...มันไม่มีอยู่จริงหรอก
" ปีศาจจิ้งจอกอะไรทำไมไม่มีหางละ "
" เคยมี "
" แล้วทำไมถึงเเค่เคยมีละ "
" เพราะตอนนี้อยู่ในโลกมนุษย์ยังไงละ "
" แล้วมีแสงหรือเปล่า "
" แสง?? "
" แสงวิ้งๆ หรือไม่ก็แสงวงกลมสีแดงที่อยู่บนหัวไง "
" อ้อ แฟชั่นโบราณนั่นนะเหรอ พวกเรายกเลิกไปเกือบหมื่นปีแล้วละ "
" โห...ในนรกมีเทรนด์แฟชั่นด้วย "
" แน่นอนอยู่แล้ว ไว้สักวันเราจะพาคุณไป "
"ใจดีจัง ขอบคุณมากนะ "
" ด้วยความยินดี "
ผมถลึงตาใส่ คือไม่รู้จริงๆเหรอว่าประชด
" ปัญญาอ่อนบอกมาเดี๋ยวนี้นะว่านายเป็นใครกันแน่ "
เค้าคิดเหรอว่าผมจะเชื่อมุกหลอกเด็กอะไรแบบนั้น
" ใจเย็นๆนะ เราบอกเเล้วไงว่าเราเป็นเทวดเราบอกเเล้วไงว่าเราเป็นปีศาจแต่เราใจดีนะ "
" ปีศาจบ้านป้านายนะสิ นี่ตกทะลุเพดานมาจนสมองฟั่นเฟือนเหรอฮะ "
" เปล่า...เราเป็นปีศาจจริงๆ เราไม่ได้มุสาพูดเลยนะ "
" ไม่ได้โกหก? เห็นๆอยู่ว่านายโกหก ปีศาจบ้าบออะไรไม่มีอยู่จริงสะหน่อย
" มีสิ...นี่ไง เรานี่ไง!! "
" เหอะได้ งั้นก็เเสดงอิทธิฤทธิ์ออกมาสิ...ไหน! ข้อดูห่างจิ้กจอกได้มั้ยละหรือเสกเงินให้ผมสักล้านสิ ถ้าเป็นปีศาจจริงๆ "